งานศิลปะลายรดน้ำลงรักปิดทองเป็นงานประณีตศิลป์ของไทยจัดอยู่ในงานช่างสิบหมู่ มีวิวัฒนาการสืบต่อมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา ในสมัยอยุธยาช่วงพุทธศตวรรษที่ 22 - 23 เป็นช่วงสมัยงานศิลปะลายรดน้ำเจริญรุ่งเรืองที่สุดและได้รับการยกย่องว่าเป็นฝีมือชั้นบรมครู ดังปรากฎหลักฐานชัดเจนเช่น ตู้พระธรรมฝีมือช่างวัดเชิงหวาย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กทม.) ต่อมาช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นในรัชสมัยรัชกาลที่ 3 - 4 เป็นช่วงที่ศิลปะมีการแพร่หลายและเฟื่องฟูมาก โดยภาพเขียนลายรดน้ำบางส่วนได้รับอิทธิพลจากจีนและชาติตะวันตกมาผสมผสาน แต่หลังรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาศิลปะวัตถุจากชาติตะวันตกก็ได้เข้ามาแพร่หลายและมีอิทธิพลมากขึ้น งานศิลปะลายรดน้ำจึงเกือบจะเป็นตำนานทางมรดกศิลปวัฒนธรรมเพราะภายหลังการเขียนลายรดน้ำมีเพียงการเขียนซ่อมแซมหรือบูรณปฏิสังขรณ์ผลงานเก่าในอดีตเป็นหลักเท่านั้น
ขั้นตอนการเขียนลายรดน้ำ
ล้างทำความสะอาดพื้นก่อนการเขียนลาย การโรยแบบร่างเพื่อการเขียนลาย
การตัดเส้นรอบนอกด้วยน้ำยาหรดาล ใส่รายละเอียดลวดลายจนแล้วเสร็จ
ถมพื้นโดยรอบนอกลาย ถมลายเสร็จเรียบร้อย
เช็ดรักให้ทั่วและถอนให้แห้งหมาด ปิดทองคำเปลว
กวดทองคำเปลวด้วยสำลี เก็บงานรายละเอียดที่ไม่เรียบร้อย
งานรดน้ำโดยใช้กระดาษเปลือกทองชุบน้ำปิดให้ทั่วพื้นที่ ล้างหรดาลออกและเช็ดแห้งด้วยผ้านุ่ม